NISSAN LEAF ขับเที่ยวในกรุงเทพฯ เช้าจรดเย็นยังเหลือๆ
“นิสสัน ลีฟ” อยากรู้ว่าใช้ในเมืองจะเป็นอย่างไร? ด้วยความที่ทีมงานได้รับรถมาตอนแปดโมงเช้าวันศุกร์ และต้องนำส่งคืนก่อนหกโมงเย็น ทำให้เราชาร์จไฟเต็มได้เดียงวิธีเดียวแบบควิกชาร์จกระแสตรง (DC) เพราะถ้าแบบปกติ (AC) ต้องใช้เวลาถึง 12 ชั่วโมง การทดสอบจะไม่สามารถทำได้ จึงรีบไปหาโชว์รูมใกล้บ้านที่มีแท่นชาร์จ “นิสสัน ออโต้แกลลอรี่” อยู่เลยหมู่บ้านแถวสุขาภิบาล 3 จำได้ว่าเป็นตัวแทนขายอยู่ เข้าไปติดต่อไม่นาน เจ้าหน้าที่มาทำการชาร์จให้ พร้อมกับแจ้งว่า “ชาร์จฟรี” ครับ ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง ด้วยความที่มีแบตติดรถอยู่ 50% แถมเจ้าแท่นชาร์จเดลต้ามันไฟแรงมาเต็มซะด้วย ยืนคุยกับทีมงาน เผลอแป๊บเดียวพร้อมสำหรับทำภารกิจ ส่วนใครที่มีนิสสัน ลีฟ และอยากแวะเข้าไปชาร์จ แนะนำว่ามาช่วง 08.30-17.00 ตามเวลาเปิด-ปิด โชว์รูม จะมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้ ไม่สามารถทำเองได้เพราะต้องใช้บัตรสแตมป์กับเครื่องซึ่งอยู่กับคนที่ดูแล ซึ่งบางที่ส่วนรถชาร์จไฟเต็ม 80% ไม่สามารถเต็ม 100% ได้ เป็นข้อกำหนดของแท่นจ่ายไฟแบบควิกชาร์จตามหลักสากล ระยะทางที่ขึ้นแสดงบนหน้าปัดวิ่งได้ 223 กม. ในรถนั่ง 2 คน น้ำหนักรวมเกือบ 200 กก. ตำแหน่งระบบปรับอากาศปรับความแรงไว้เบอร์ 5 เนื่องจากปกติชอบเย็นฉ่ำ อุณหภูมิ 22 องศา (ขนาดรถมีฟิล์มมาให้) ขับออกมาได้ 10 นาที ไม่กี่กิโลเมตรในโหมด Eco สภาพการจราจรรถหนาแน่นช่วงสายๆ ระยะทางหายไป 20 กม. เฉยเลย สงสัยตัวรถคำนวณจากนิสัยคนขับในการกดคันเร่ง และเบรก (ผู้ขับขี่วันนี้สายเรซซิ่งซะด้วย) เรามุ่งหน้าไปตามถนนปกติเพื่อเผชิญรถติด ขับไปสยามแหล่งวัยรุ่นเพื่อแวะจิบชานม ผ่านไป 3 ชม.กว่า มาถึงจนได้ ระยะทางมาแค่ 32 กม. ความเร็วในเมือง 20-40 กม./ชม. จึงหันหน้ามาประชุมกันว่าถ้าขับแบบนี้ เวลาจะไม่ทันส่งมอบรถตอนเย็น เลยขับขึ้นทางด่วนบ้างตอนรถติด เพื่อหนีสักนิดก็ยังดี บางช่วงทำความเร็วได้เป็นร้อย วนไปแจ้งวัฒนะบ้าง ดอนเมือง กลับมาพระราม9 เข้ามอเตอร์เวย์นิดๆ จนแบตเตอรี่แจ้งต่ำกว่า 10% ให้รีบหาที่ชาร์จ ตอนวิ่งไปแล้ว 157 กม. แบตเหลือวิ่งได้อีก 27 กม. มาจบที่ศูนย์นิสสันกรุงไทยรามอินทรา มีแท่นพอดี พระอาทิตย์เกือบลับขอบฟ้า เกือบส่งรถต่อไม่ทัน นั่นเท่ากับว่าบททดสอบครั้งนี้ชาร์จเต็มแบบควิกที่ 80% วิ่งได้รวม 157+27 = 184 กม. ด้วยแบตเตอรี่ความจุขนาด 40 kWhสรุปได้ว่า “นิสสัน ลีฟ” หน้าปัดเชื่อถือได้ ระยะการวิ่ง 200 กม./การชาร์จแบบควิกจนเต็ม สบายๆ ขับในเมืองรถติดตั้งแต่เช้าถึงเย็น ตัวอย่างที่เห็น ผู้ขับขี่ลองเล่นในหลายโหมด จึงทำตัวเลขได้ไม่ดี เพียง 184 กม. รวมทั้งโหมด E Pedal เสียดายที่ไม่ได้ลองเต็มๆ ว่าที่โฆษณาวิ่งได้ 311 กม. เมื่อชาร์จเต็ม 100% จะทำได้ดีแค่ไหน (การขับครั้งนี้ไม่ได้ขับแบบประหยัด มีเร่งแซง กดคันเร่งตามจังหวะ ลองความเร็วสูงสุดได้ 160 ! ถนนหมด หน้าจอมีแค่ 180) ส่วนที่สังเกตเพิ่มเติม คือการเปิดความแรงของแอร์ไม่ส่งผลในทันทีกับระยะทางที่แสดงบนหน้าจอเหมือนรถไฟฟ้ารุ่นอื่น ตัวเลขไม่เปลี่ยน (เก็บคำถามนี้ไว้ถามวิศวกรในวันพาสื่อทดสอบ) ชอบที่สุด คือ ความนั่งสบายของเบาะอ้วนๆ นุ่มๆ เบาะหลังพับได้อีก ส่วนข้อติ คือ เกียร์แบบนี้ไม่เหมาะกับเด็กนั่งหน้าไปด้วย เพราะสามารถพลาดไปโดนได้ง่ายๆ ใครสนใจ ราคาขาย 1.99 ล้าน